Samsung ตั้งเป้าขายมือถือปีหน้า 270 ล้านเครื่อง เผยจะเน้นมือถือพับได้เต็มสูบ

อย่างที่รู้กันดีว่าปีนี้อาจจะไม่ได้เป็นปีของ Smart phone เท่าไหร่เพราะหลายเหตุผลด้วยกัน แต่ล่าสุด Samsung

ได้มีการเปิดเผยว่า ตอนนี้ขายมือถือทั่วโลกกว่า 260 ล้านแล้ว ทั้งนี้ Samsung ก็มีแผนว่าจะส่งมอบมือถือให้ได้ 270 ล้านเครื่องในปีหน้า โดยเป้านั้นยังต่ำกว่าปี 2017 ที่ทำได้กว่า 320 ล้านเครื่อง

อย่างไรก็ตามในปีนี้แม้เป้าหมายจะอยู่ที่ 260 ล้านเครื่องแล้วก็ตาม แต่ในปีหน้า Samsung ก็ตั้งเป้าว่าจะเติบโตขึ้น 10 ล้านเครื่อง และมีการเผยว่าพวกเขาจะเน้นเรื่องของมือถือพับได้มากขึ้น แถมยังเน้นมือถือพับได้ ซึ่งคาดว่าจะสร้างกำไรได้มากขึ้นในการขายภาพรวม

ข่าวอื่นๆ แบงก์ทิสโก้ จัดเงินฝากประจำพิเศษ 17 เดือน ดอกเบี้ยสูง 1.8% รับดอกเบี้ยขาขึ้น

เปิดตัว Pixel 7 และ Pixel 7 Pro มือถือที่เน้นใช้ AI และซอฟต์แวร์ เพิ่มคุณภาพการใช้งาน

Google เปิดตัวมือถือเรือธงรุ่นใหม่เมื่อคืนนี้ 2 รุ่นคือ Pixel 7 และ Pixel 7 Pro

Google เปิดตัวมือถือ

ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของ Google ไปแล้วที่เน้นซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นเฉพาะของ Google มากกว่าตัวฮาร์ดแวร์เครื่องเอง โดยรวมแล้วรุ่นนี้ ก็ยังคงดีไซน์ที่ไม่หนีรุ่นก่อนอย่าง Pixel 6 มากนัก เรามาดูรายละเอียดของมือถือตัวนี้กัน

มือถือในซีรีส์ Pixel 7 นี้ใช้ชิปประมวลผล Google Tensor G2 ซึ่งเป็นการอัพเกรดครั้งที่ 2 หลังจาก Google เปิดตัวชิป Tensor มา ทาง Google บอกด้วยว่าตัวอะลูมิเนียมภายนอกเครื่องใช้วัสดุรีไซเคิล 100%

Pixel 7 ขนาดหน้าจอ 6.3 นิ้ว ขอบจอบางลง มี 3 สีให้เลือกคือ Snow, Obsidian และสีใหม่ Lemongrass ที่ออกเขียวอ่อนตะไคร้ ส่วน Pixel 7 Pro จอแสดงผลขนาด 6.7 นิ้วที่ พร้อมตัวเลือกสี Snow, Obsidian และสี Hazel ใหม่

กล้อง Pixel 7 ละเอียด 50MP, กล้อง ultrawideละเอียด 12MP ด้าน Pixel 7 Pro มีกล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลัก 50MP, ultrawide 12MP และกล้อง tele 48MP

ซอฟต์แวร์กล้องที่มาพร้อมการประมวลผลชิปของ Google น่าจะเป็นจุดเด่นของมือถือรุ่นนี้ เช่น Super Res Zoom 8 เท่าใน Pixel 7 และสูงสุด 30 เท่า ใน Pixel 7 Pro โดยเพิ่มฟังก์ชั่นกล้องเลนส์เทเลโฟโต้ 2 เท่าสำหรับ Pixel 7 และ 10 เท่าสำหรับ Pixel 7 Pro ช่วยให้การถ่ายภาพซูมยังคงความชัดได้

การถ่ายรูปมาโครหรือ  Macro Focus ถ่ายมาโครได้ภาพชัด Pixel HDR+ แม้กล้องอยู่ห่างจากวัตถุ 3 ซม.

Photo Unblur ใช่ซอฟต์แวร์ลบความเบลอของภาพ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่เปิดตัวใน Pixel 7 และ Pixel 7 Pro โดยเฉพาะ และยังใช้ Magic Eraser หรือลบ object ในภาพได้เหมือนเดิม

เพิ่ม Guided Frame ช่วยแนะนำตำแหน่งการถ่ายรูปกล้องหน้า ช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาสายตาใช้งานกล้องหน้าได้

อัปเกรดการถ่ายวิดีโอที่สว่างกว่า คอนทราสต์สูงกว่าด้วยช่วงสีที่กว้างกว่า และ Cinematic Blur ที่ช่วยให้ถ่ายวิดีโอแบบชัดตื้นได้

ส่วนฟังก์ชั่น Real Tone ที่ให้การถ่ายรูปคนผิวสี ยังคงสีจริงไว้ ลดการ whitewash ซึ่ง Google บอกว่า ได้เทรนอัลกอริทึมเพิ่มอีกเป็นหมื่นภาพ  และให้ยังคงสีผิวสมจริงแม้ถ่ายในโหมดแสงน้อย และโหมดกลางคืน Night Sight

ส่วนการใช้งานทั่วไป Google ใช้ Google Tensor G2 ปรับปรุงการใช้งานทั่วไปให้ฉลาดขึ้น รับรู้ภาษาได้ดีขึ้น เช่นฟีเจอร์ Direct My Call ที่ได้เปิดตัวในปีที่แล้ว ในรุ่นนี้ ผู้ใช้งานสามารถมองเห็นตัวเลือกกดหมายเลขต่างๆ เมื่อต้องโทรหาคอลเซนเตอร์ ช่วยให้ทำธุระได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่มคำบรรยายให้อัตโนมัติถ้ามีการส่งข้อความเสียงด้วย

ฟีเจอร์ทางเทคนิค Pixel 7

  • หน้าจอ OLED 6.32  นิ้ว, 2400 x 1080 pixels สว่าง 1400 nits รีเฟรชเรท 90 Hz
  • ชิป Tensor G2
  • RAM 8GB
  • ความจำ 128/256GB
  • แบตเตอรี่ 4,355 mAh Li-Ion
  • การเชื่อมต่อ 2G, 3G, 4G, 5G, Bluetooth 5.2, NFC, Wi-Fi 802.11ax
  • ระบบปฏิบัติการ Android 13
  • มาตรฐานกันน้ำ IP68

ฟีเจอร์ทางเทคนิค Pixel 7 Pro

  • หน้าจอ pOLED 6.7 นิ้ว ความละเอียด 3120 x 1440 pixels ความสว่าง 1500 nits รีเฟรชเรท 120 Hz
  • ชิป Tensor G2
  • RAM 12GB
  • ความจำ 128/256GB
  • แบตเตอรี่ 5,000 mAh Li-Ion
  • การเชื่อมต่อ 2G, 3G, 4G, 5G, Bluetooth 5.2, NFC, Wi-Fi 802.11ax
  • ระบบปฏิบัติการ Android 13
  • มาตรฐานกันน้ำ IP68

เมื่อดูฟังก์ชั่นรวมๆ ถือเป็นมือถือรุ่นกลางที่ไม่ถึงกับเทียบเท่าซีรีส์พรีเมี่ยมอย่างตระกูล iPhone Pro Max และ Samsung พับได้ โดย Pixel 7 ราคา 599 ดอลลาร์ หรือราว 23,000 บาท ส่วน Pixel 7 Pro ราคา 899 ดอลลาร์ หรือราว 34,000 บาท ซึ่งยังไม่เปิดขายอย่างเป็นทางการในไทย

นอกจากมือถือแล้ว Google ยังเปิดตัวไลน์โปรดักต์หลายตัว ที่คนสนใจกันคือ  Google Pixel Watch ซึ่งเป็นสมาร์ทวอทช์รุ่นแรกของแบรนด์ ที่เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง Google และ Fitbit,  และยังมี Pixel Tablet ด้วย

อ่านข่าวธุรกิจ เพิ่มเติมคลิ๊ก>>> แบงก์ทิสโก้ จัดเงินฝากประจำพิเศษ 17 เดือน ดอกเบี้ยสูง 1.8% รับดอกเบี้ยขาขึ้น

แบงก์ทิสโก้ จัดเงินฝากประจำพิเศษ 17 เดือน ดอกเบี้ยสูง 1.8% รับดอกเบี้ยขาขึ้น

ธนาคารทิสโก้ (TISCO) เอาใจนักออมรับอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ประกาศดอกเบี้ยเงินฝากประจำพิเศษ 17 เดือน อัตราดอกเบี้ยสูง 1.8% ต่อปี

ธนาคารทิสโก้

วงเงินฝาก 500,000 บาทขึ้นไปสำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดา ที่ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา

อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวสำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดาเท่านั้น อัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามประกาศ และเงื่อนไขธนาคาร

อัพเดทข่าว แนะนำข่าวเพิ่มเติม : สวนสามพราน ปรับธุรกิจครั้งใหญ่สู่ความยั่งยืน

สวนสามพราน ปรับธุรกิจครั้งใหญ่สู่ความยั่งยืน

“สวนสามพราน” จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่ชาวไทยและชาวต่างประเทศคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับการเป็นทั้งแหล่งท่อง เที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร รวมไปถึงพื้นที่แสดงศิลปวัฒนธรรม หลังจากการบุก เบิกธุรกิจของอดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนแรก “ชำนาญ ยุวบูรณ์”

สวนสามพรานรุ่นที่3

นับเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย นับตั้งแต่การเริ่มต้นธุรกิจมาถึงวันนี้อายุครบ 60 ปีเต็ม กำลังปรับทิศทางโมเดลธุรกิจครั้งใหญ่ภายใต้การบริหารงานของธุรกิจครอบครัวในรุ่นที่ 3 ไปสู่ธุรกิจเกษตรอินทรีย์ ธุรกิจสุขภาพและเวลเนสที่ถูกมองว่าเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คน รวมไปถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ได้สร้างผลกระทบให้กับธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมอย่างหนัก ซึ่ง “สวนสามพราน” เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการหลีกเลี่ยงไม่ได้กับผลกระทบที่เกิดขึ้น ได้ตัดสินใจปิดให้บริการโรงแรมหลังการระบาดเข้าสู่ปีที่ 2

นายอนัฆ นวราช ทายาทรุ่นที่ 3 สวนสามพราน กล่าวว่า ใน ช่วงที่ผ่านมาธุรกิจของสวน สามพรานได้พัฒนาแนวคิดเกษตรอินทรีย์เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงธุรกิจในอนาคต ซึ่งหลังจากเป็นธุรกิจสตาร์ตอัพมา 5 ปี จนถึงขณะนี้ปรากฏว่าสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่นำไปเป็นวัตถุดิบผลิตสินค้าหลากหลายชนิดสำหรับธุรกิจ “บีทูบี” จากโรงงานของสวนสามพราน ภายใต้แบรนด์ “ปฐม” ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีและกลายเป็นธุรกิจทำรายได้ที่สำคัญหล่อเลี้ยงบริษัททดแทนธุรกิจโรงแรมที่ปิดตัวไป พร้อมกับแผนการขยายธุรกิจขับเคลื่อนต่อไปในอนาคต

ธุรกิจภายใต้แบรนด์ปฐมประกอบด้วยปฐมออร์แกนิก วิลเลจ หมู่บ้านแปรรูปสินค้าอินทรีย์, ปฐม ออร์แกนิก ฟาร์ม แหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้เกษตรอินทรีย์, ปฐม ออร์แกนิก สปา ร้านนวดสปาสไตล์ไทยๆ, ปฐม ช็อป ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของกลุ่มสวนสามพราน, ผลิตภัณฑ์บอดี้แคร์ แบรนด์ปฐม และปฐม ออร์แกนิก คาเฟ่ ร้านกาแฟ เบเกอรี ขนมไทย

สำหรับธุรกิจโรงแรมได้ปิดดีลกับบริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) ให้เช่าพื้นที่จำนวน 12 ไร่เป็นเวลา 40 ปี เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการด้านสุขภาพ ภายใต้ชื่อโครงการ RXV “รักษ วิลเลจ สามพราน” ตั้งเป้าให้เป็นจุดหมายปลายทางของศูนย์สุขภาพและไลฟ์สไตล์ใหม่ของคนไทย

น.ส.ดุษฎี ตันเจริญ กรรมการบริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) ผู้ดูแลและบริหารงานด้านธุรกิจสุขภาพ กล่าวว่า การร่วมมือเป็นพันธ มิตรกับสวนสามพรานเพราะเล็งเห็นศักยภาพที่ไดล ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก โอบล้อมด้วยธรรมชาติเงาร่มไม้ใหญ่บนพื้นที่ทั้งหมด 100 ไร่ ริมแม่น้ำท่าจีน มีพื้นที่ฟาร์มเกษตรอินทรีย์อีกกว่า 30 ไร่ จึงเดินหน้าพัฒนาพื้นที่โดยใช้จุดแข็งจากองค์ความรู้ด้านบริหารจัดการธุรกิจเวลเนสและศาสตร์การแพทย์แบบองค์รวม ผ่านบริษัทร่วมทุนที่จัดตั้งร่วมกับโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ นำความแข็งแกร่งในด้านศาสตร์ทางการแพทย์ที่สมัยใหม่มาดูแลสุขภาพแบบผสมผสาน

“จากความสำเร็จในการพัฒนาโครงการ “รักษ เวลเนส บางกะเจ้า” บริษัทจึงเดินหน้าขยายธุรกิจให้บริการด้านสุขภาพ ด้วยงบลงทุน 700 ล้านบาท โดยเฟสแรกจะเปิดให้บริการในเดือน พ.ย.ที่จะถึงนี้”

ทั้งนี้ การพัฒนาโครงการ RXV จึงนับเป็นอีกก้าวสำคัญของบริษัทในการรุกตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่กำลังมาแรง เฟสแรกจำนวน 83 ห้อง จาก 150 ห้อง พร้อมลงทุนในพื้นที่เพื่อกิจกรรมดูแลสุขภาพ ขึ้นใหม่อีกกว่า 4,000 ตาราง เมตร โดยใช้หลักการดูแลสุขภาพแบบผสมผสานที่รวบรวมเอาศาสตร์การดูแลสุขภาพมาไว้มากมาย

น.ส.ดุษฎี กล่าวว่า รูปแบบการให้บริการสุขภาพที่ RXV ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านสุขภาพและการพักผ่อนของทุกวัย เหมาะสำหรับทั้งผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นดูแลสุขภาพไปจนถึงผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ดูแลสุขภาพแบบจริงจัง จะเป็นการมานอนพักผ่อนเป็นครอบครัวท่ามกลางธรรมชาติ หรือจะพาคนที่คุณรักมาเข้าโปรแกรมดูแลสุขภาพแบบเช้าเย็นกลับ แบบค้างคืน แม้กระทั้งการมาจัดงานสัมมนาควบคู่ไปกับโปรแกรมการดูแลสุขภาพในรูปแบบองค์กร ที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับการจัดงานสัมมนาหรืออีเวนต์ต่างๆขององค์กรผ่านกิจกรรมสุขภาพ เริ่มแรกจะจับกลุ่มลูกค้าชาวไทยก่อน

ขณะที่สวนสามพรานเห็นการร่วมมือดังกล่าวจะช่วยต่อยอดธุรกิจที่กำลังขยายไปด้านเกษตรอินทรีย์ป้อนวัตถุดิบ จัดกิจกรรมต่างๆ สนับสนุนซึ่งกัน เอาความเชี่ยวชาญของแต่ละด้านมาเสริมสร้างซินเนอร์จี้ให้มีความแข็งแกร่งร่วมกันต่อไป. themoneybet356