คลายสงสัย “น้องต่อ” เด็ก 8 เดือน หายได้อย่างไร ทั้งที่นอนอยู่กับพ่อแม่

มูลนิธิกระจกเงา ลงพื้นที่ช่วยแกะรอยเบาะแส ค้นหา “น้องต่อ” เด็ก 8 เดือน หายปริศนาจากบ้านพัก บอกที่ผ่านมา เคสเด็กเล็กหายตัว มักมีคำตอบในห้วงเวลา 1-7 วันเสมอ

เด็ก-8-เดือน-หาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี ตำรวจจังหวัดนครปฐม เร่งหาหลักฐานเพื่อใช้เป็นเบาะแส ตามหาตัว “น้องต่อ” เด็กชายอายุ 8 เดือน ที่ถูกอุ้มหายออกจากห้องนอน ในบ้านพื้นที่ จ.นครปฐม ทั้งๆ ที่พ่อกับแม่นอนหลับอยู่ด้วยกัน โดยมีพยานอ้างว่า เห็นชายคนหนึ่งรีบร้อนออกมาจากบ้าน เหมือนอุ้มอะไรบางอย่าง แต่ไม่ทราบว่าเป็นใคร

ขณะที่ แฟนเก่าของแม่เด็ก ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เนื่องจากได้เลิกรากับแม่ของเด็ก และไม่ได้ติดต่อกันประมาณ 4-5 ปีแล้ว

ขณะที่ มูลนิธิกระจกเงา ซึ่งส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ร่วมสังเกตการณ์ ในเคสของ “น้องต่อ” ได้อัปเดตข้อมูลล่าสุดผ่านเฟซบุ๊กเพจ ว่า

1. ขณะนี้ยังไม่พบตัวน้องต่อ และยังไม่มีเบาะแสที่ชัดเจน

2. การสืบสวนอยู่ในการติดตามอย่างเต็มกำลังและครบถ้วนในทุกแง่มุม โดยตำรวจ สภ.บางหลวง, ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม, ตำรวจภูธรภาค 7

3. จุดรกร้าง หรือ แหล่งน้ำ อยู่ไกลเกินกว่าเด็กจะคลานไปได้ด้วยตัวเอง

4. ลักษณะการหายตัวไป จึงมีแนวโน้มว่ามีคนพาไป

5. ลักษณะพื้นที่ แม้จุดที่เด็กนอนจะไม่มีประตูปิด แต่คนภายนอกยากจะเข้าถึงตัวเด็กได้ ถ้าไม่รู้มาก่อนว่าเด็กนอนด้านใน

6. บุคคลที่เกี่ยวข้องถูกเชิญมาพูดคุยซักถามสอบปากคำอย่างต่อเนื่อง

7. อย่างไรก็ตาม แนวทางสันนิษฐานในประเด็นต่างๆ ต้องระมัดระวัง ไม่ทำให้บุคคลใดถูกกล่าวหาโดยปราศจากหลักฐาน

8. การสืบสวนและการค้นหายังทำต่อเนื่องควบคู่กัน

9. ข้อมูลการสัมภาษณ์บุคคลต่างๆ ที่ปรากฏในสื่อ ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม ส่วนหนึ่งอาจเป็นข้อคิดเห็นและบริบทในการให้สัมภาษณ์ที่อาจถูกตัดมาเพียงบางช่วง

นอกจากนี้ ยังได้อธิบายสิ่งที่สังคมสงสัยว่า เด็กชายอายุเพียง 8 เดือนจะหายตัวไปได้อย่างไร ในเมื่อนอนอยู่กับพ่อแม่ของตัวเอง แม้สภาพที่พักอาศัยอาจไม่มีรั้วรอบขอบชิด แต่มีการกั้นพื้นที่เป็นสัดส่วน หากไม่เคยมาที่นี่ อาจจะไม่รู้เลยว่ามีเด็กนอนอยู่ในบริเวณดังกล่าว

จุดที่จะเข้าไปถึงตัวเด็ก ต้องเดินเข้าไปในบริเวณบ้าน แม้บ้านดังกล่าวจะเป็นร้านค้า แต่ในช่วงเช้าตรู่ ยังไม่มีการเปิดร้าน คนภายนอกแทบไม่รู้เลยว่าเป็นร้านค้า มีเพียงคนในชุมชนหรือคนที่เคยมาเท่านั้นที่จะรู้

คนภายนอกที่ไม่เคยมาที่นี่เลย จะเผชิญหน้ากับเด็กโดยบังเอิญเป็นครั้งแรก แล้วลักพาตัวไปเลย จึงเป็นไปได้ยากมาก

เมื่อตัดประเด็น เด็กคลานหายไปด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นไปไม่ได้ และตัดบุคคลภายนอกที่จะเข้ามาในชุมชนเป็นครั้งแรกออก รัศมีของผู้ก่อเหตุหรือร่วมก่อเหตุย่อมอยู่ในคนที่จะรู้จัก หรือเคยมาบ้านหลังนี้

แต่รายละเอียดการสืบสวนบางอย่างอาจยังไม่ได้เปิดเผยทั้งหมด แต่ทุกเหตุการณ์การหายตัวไปของเด็กเล็กที่ผ่านมา มักมีคำตอบในห้วงเวลา 1-7 วันเสมอ ไม่ว่าคำตอบนั้นจะถูกเฉลยโดยใคร ขอให้คำตอบครั้งนี้น้องต่อปลอดภัยครับ และหากมีผู้ที่ทราบเบาะแส โปรดแจ้ง มูลนิธิกระจกเงา โทร. 0807752673.

อัพเดทข่าว เพิ่มเติม : RSV ในเด็กเริ่มระบาด ภัยร้ายคล้ายหวัด การติดเชื้อคล้ายโควิด แนะสังเกตอาการ

RSV ในเด็กเริ่มระบาด ภัยร้ายคล้ายหวัด การติดเชื้อคล้ายโควิด แนะสังเกตอาการ

RSV ในเด็กเริ่มระบาด ภัยร้ายคล้ายหวัด การติดเชื้อคล้ายโควิด แนะสังเกตอาการ

RSV ในเด็กเริ่มระบาด หมอแล็บเผย ภัยร้ายคล้ายหวัด การติดเชื้อคล้ายโควิด ทำให้หลอดลมตีบบวม หายใจหอบเหนื่อย แนะผู้ปกครองสังเกตอาการ

RSV ในเด็ก

สถานการณ์โควิดยังไม่หายไปไหน เมื่อเข้าสู่ช่วงหน้าฝน ผู้ปกครองคงต้องระวังเชื้อไวรัส RSV ในเด็กเพิ่มอีก

โดยเฟซบุ๊กเพจ “หมอแล็บแพนด้า” ของ ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย์ชื่อดัง โพสต์ข้อความระบุว่า “เริ่มมีเชื้อไวรัส RSV ระบาดอีกแย้ววว ชื่อภาษาอังกฤษก็คือ Respiratory Syncytial Virus

อย่าลืมสังเกตอาการของลูกหลานให้ดีๆ นะครับ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่อายุไม่เกิน 5 ขวบ

ไวรัสตัวนี้ใช้เวลาในการฟักตัวประมาณ 3-6 วัน หลังจากที่เราได้รับเชื้อ อาการมันจะคล้ายกับไข้หวัดมาก ไหนจะใกล้เคียงกับพวกโควิดเข้าไปอีก เช่น ไอ จาม มีเสมหะมากๆ หายใจเหนื่อยหอบ หายใจมีเสียงวี้ดๆๆ (Wheezing)

ไอ้เสียงวี้ดๆ นี่แหละ เราต้องเอะใจแล้ว เพราะเป็นตัวบอกอย่างนึงว่าเด็กหลอดลมตีบ

RSV มันจะทำให้หลอดลมตีบบวม ก็เลยทำให้เด็กหายใจหอบเหนื่อย ต้องหายใจเร็วและแรง ใช้กล้ามเนื้อกระบังลมช่วยหายใจ มีสารคัดหลั่งในหลอดลมมาก จนอาจอุดหลอดลม เด็กบางคนต้องใช้วิธีการดูดเสมหะช่วย หรือซ้ำร้ายกว่านั้นต้องให้ออกซิเจน หรือใส่ท่อช่วยหายใจกันเลยทีเดียว

วิธีการติดเชื้อคล้ายๆ โควิดครับ ติดต่อผ่านทางการ ไอ จาม สัมผัสสารคัดหลั่ง และยังไม่มีวัคซีน ขนาดเราป้องกันลูกหลานดีที่สุดแต่ก็ยั้งจะระบาดได้ เพราะเด็กก็คือเด็ก เด็กชอบเล่นคลุกคลีกับเพื่อน เอามือจับหน้าจับตา แคะขี้มูก ไม่ค่อยระมัดระวังเท่าไหร่

พยายามให้เด็กๆ ล้างมือให้สะอาด จะได้ป้องกันการติดต่อทางการสัมผัส ใส่หน้ากากอนามัย ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือเป็นประจำ ทำความสะอาดของเล่นและสิ่งของที่ใช้ร่วมกันให้สะอาดอยู่เสมอ

คนในบ้านถ้าไอ จาม ให้ใส่หน้ากากอนามัย และก่อนจะจับหรืออุ้มเด็กควรล้างมือก่อนเสมอนะครับ”.