CPALL เคาะจ่ายปันผลผู้ถือหุ้น 0.75 บาทต่อหุ้น เป็นเงินกว่า 6,700 ล้าน

CPALL เคาะจ่ายปันผลผู้ถือหุ้น 0.75 บาทต่อหุ้น เป็นเงินกว่า 6,700 ล้าน

บอร์ด CPALL อนุมัติจ่ายเงินปันผลปี 2565 แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.75 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 6,700 ล้านบาท กำหนดจ่าย 19 พ.ค.นี้

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 23 ก.พ.2566 มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับปี 2565 ให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.75 บาท สำหรับผู้ถือหุ้นจำนวน 8,983,101,348 หุ้น รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 6,737,326,011 บาท คิดเป็น 59% ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการและหลังหักภาษีเงินได้

CPALL เคาะ

ทั้งนี้ การจ่ายปันผลจะจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นตามกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 3 พ.ค. 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 19 พ.ค. 2566 และ การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวจะเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติต่อไป

อ่านข่าวการเงินที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่ : DTAC ควักอีก 2,888 ล้านบาท จ่ายปันผลระหว่างกาลอีก 1.22 บาทต่อหุ้น

 

อัตราเงินเฟ้อ CPI ของจีนเกินความคาดหมายในเดือนมกราคม แต่ PPI แย่ลง

เมื่อวันศุกร์ อัตราเงินเฟ้อราคาผู้บริโภคของจีนเติบโตน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด19 ที่เพิ่มขึ้นยังคงจำกัดการใช้จ่ายของประชาชน

อัตราเงินเฟ้อ-CPI

แม้จะยกเลิกข้อจำกัดส่วนใหญ่ไปแล้วก็ตาม ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อภาคโรงงานที่แย่ลงแสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดัน

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เติบโตที่ 2.1% ต่อปีในเดือนมกราคม ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติแสดงให้เห็นว่ามากกว่า 1.8% ที่เห็นในเดือนธันวาคมแต่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.2%

แต่เมื่อเทียบเป็นรายเดือน อัตราเงินเฟ้อ CPI เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้เป็น 0.8% เพิ่มขึ้นอย่างมากจากการอ่านค่า 0% ในเดือนธันวาคม

แม้ว่าการอ่านจะสะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวของการใช้จ่ายหลังจากการผ่อนคลายมาตรการต่อต้านโควิด แต่ยังแสดงให้เห็นว่าประชาชนยังคงระมัดระวังการใช้จ่ายของตัวเองเนื่องจากยังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด19 ที่เพิ่มขึ้นและสภาวะเศรษฐกิจที่แย่ลง

นอกจากนี้ การใช้จ่ายยังได้รับแรงหนุนจากวันหยุดเทศกาลตรุษจีนที่ยาวนานถึงหนึ่งสัปดาห์ แม้ว่าจะเล็กน้อยก็ตาม แต่ข้อมูลของวันศุกร์แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนเผชิญกับหนทางอีกยาวไกลในการก้าวไปสู่ระดับการเติบโตก่อนเกิดโรคระบาด ซึ่งบั่นทอนความคาดหวังของตลาดสำหรับการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจรายนี้

ดัชนีผู้ผลิต (PPI) ของจีน (PPI) หดตัวที่ 0.8% ต่อปีในเดือนม.ค. ซึ่งแย่กว่าการอ่านค่าติดลบ 0.7% ในเดือนธันวาคมและต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 0.5%

การอ่านค่าร่วมกับข้อมูลกิจกรรมทางธุรกิจที่อยู่ที่ระดับปานกลางในเดือนมกราคม แสดงให้เห็นว่าบางแง่มุมของเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกยังคงดิ้นรนกับการติดเชื้อโควิด19 ที่เพิ่มขึ้นและสภาวะเศรษฐกิจโลกที่เลวร้ายลง

ในขณะที่ธุรกิจในท้องถิ่นประสบปัญหาในการรับมือกับผู้ติดเชื้อโควิด19 ที่สูง พวกเขายังเผชิญกับความต้องการสินค้าในต่างประเทศที่ลดลง ท่ามกลางกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทั่วโลก การอ่านค่าเงินเฟ้อที่อ่อนแอยังเป็นไปตาม แบบสำรวจเอกชน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตยังคงหดตัวจนถึงเดือนมกราคม

แนวโน้มเงินเฟ้อที่อ่อนตัวอาจทำให้รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น เนื่องจากรัฐบาลต้องพยุงการเติบโตทางเศรษฐกิจ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ปักกิ่งย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจในปีนี้ด้วยการส่งเสริมการบริโภคและอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น

แต่นั่นจะส่งผลลบสำหรับค่าเงินหยวนจีน ซึ่งกำลังดิ้นรนภายใต้ช่องว่างที่กว้างขึ้นระหว่างอัตราดอกเบี้ยในประเทศและต่างประเทศ สกุลเงินร่วงลง 0.2% หลังจากการอ่านค่าในวันศุกร์

อัพเดทข่าว เพิ่มเติม : DTAC ควักอีก 2,888 ล้านบาท จ่ายปันผลระหว่างกาลอีก 1.22 บาทต่อหุ้น

DTAC ควักอีก 2,888 ล้านบาท จ่ายปันผลระหว่างกาลอีก 1.22 บาทต่อหุ้น

DTAC เคาะจ่ายปันผลระหว่างกาลจากกำไรสะสม 1.22 บาทต่อหุ้น เป็นเงินกว่า 2,888 ล้านบาท

กำหนดจ่าย 22 ก.พ.2566 ชี้รวมจ่ายปันผลระหว่างกาลทั้งสิ้น 2.07 บาทต่อหุ้น หลังก่อนนี้จ่ายจากผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนไปแล้ว

ข่าวการเงินใหม่

วันที่ 26 มกราคม 2566 บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 2/2566 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2566 ได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไรสะสมของบริษัท ณ วันที่ 30 กันยายน 2565 ในอัตราหุ้นละ 1.22 บาท (ก่อนหักภาษี ณ ที่จ่าย) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,888,729,420 บาท

โดยจะจ่ายจากกำไรสะสมของบริษัทส่วนที่ได้หักผลขาดทุนสุทธิยกมาไม่เกิน 5 ปีก่อนรอบระยะเวลาบัญชีปีปัจจุบัน ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาที่ได้รับเงินปันผลไม่สามารถขอเครดิตภาษีจากการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวได้ตามมาตรา 47 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร

ทั้งนี้ บริษัทกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลระหว่างกาล (Record Date) ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566

อนึ่ง ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/256 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2565 ได้มีมติอนุมัติการายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานของบริษัท งวด 6 เดือนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2565 อัตราหุ้นละ 0.85 บาท (ก่อนหักภาษี ณ ที่จ่าย) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,012,639,350 บาท และได้จ่ายเงินปันผลดังกล่าวแล้วเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2565

โดยสรุป จำนวนเงินปันผลระหว่างกาลรวมของบริษัทซึ่งจ่ายจากผลการดำเนินงานของบริษัทฯ งวด 6 เดือนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2565 และเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไรสะสมของบริษัท ณ วันที่ 30 กันยายน 2565 ที่จะจ่าย รวมคิดเป็นอัตราหุ้นละ 2.07 บาท (ก่อนหักภาษี ณ ที่จ่าย) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 4,901,368,770 บาท ข่าวการเงินแนะนำ>>> เติมด่วน! ราคาน้ำมันวันพรุ่งนี้ เบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ขึ้น 50 สตางค์ต่อลิตร

เติมด่วน! ราคาน้ำมันวันพรุ่งนี้ เบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ขึ้น 50 สตางค์ต่อลิตร

เติมด่วน! ราคาน้ำมันวันพรุ่งนี้ เบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ขึ้น 50 สตางค์ต่อลิตร

การเงิน

ราคาน้ำมันวันนี้ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ PTTOR ในกลุ่มบริษัท ปตท. และบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ปรับราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดขึ้น 0.50 บาทต่อลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลคงเดิม มีผล 14 ม.ค. 2566 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป

ราคาน้ำมันนี้ มีผล 14 ม.ค. 2566 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป

  • เบนซิน 95 : 42.66 บาทต่อลิตร
  • แก๊สโซฮอล์ 95 : 35.25 บาทต่อลิตร
  • แก๊สโซฮอล์ 91 : 34.98 บาทต่อลิตร
  • E20 : 33.34 บาทต่อลิตร
  • E85 : 33.79  บาทต่อลิตร
  • ดีเซล : 34.94 บาทต่อลิตร
  • B20 : 34.94 บาทต่อลิตร

(ราคาขายปลีกข้างต้นยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องที่)